อรหันต์ 4, 5, 60 (Arahanta: an Arahant; arahant; Worthy One)
- สุกฺขวิปสฺสโก (ผู้เจริญวิปัสสนาล้วน — Sukkhavipassaka: bare-insight worker)
- เตวิชฺโช (ผู้ได้วิชชาสาม — Tevijja: one with the Threefold Knowledge)
- ฉฬภิญฺโญ (ผู้ได้อภิญญาหก — Chaḷabhiñña: one with the Sixfold Superknowledge)
- ปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต (ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา — Paṭisambhidappatta: one having attained the Analytic Insights)
พระอรหันต์ทั้งสี่ในหมวดนี้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงประมวลแสดงไว้ในหนังสือธรรมวิภาค ปริเฉทที่ 2 หน้า 41 พึงทราบคำอธิบายตามที่มาเฉพาะของคำนั้นๆ
แต่ในคัมภีร์ทั้งหลายนิยมจำแนกเป็น 2 อย่าง เหมือนในหมวดก่อนบ้าง เป็น 5 อย่างบ้าง ที่เป็น 5 คือ
- ปัญญาวิมุต (ผู้เจริญวิปัสสนาล้วน — Paññāvimutta: one liberated by wisdom)
- อุภโตภาควิมุต (ผู้หลุดพ้นทั้งสองส่วน คือ ได้ทั้งเจโตวิมุตติ ขั้นอรูปสมาบัติก่อน แล้วได้ปัญญาวิมุตติ — Ubhatobhāgavimutta: one liberated in both ways)
- เตวิชชะ (ผู้ได้วิชชาสาม — Tevijja: one possessing the Threefold Knowledge)
- ฉฬภิญญะ (ผู้ได้อภิญญาหก — Chaḷabhiñña: one possessing the Sixfold Superknowledge)
- ปฏิสัมภิทัปปัตตะ (ผู้บรรลุปฏิสัมภิทาสี่ — Paṭisambhidappatta: one having gained the Four Analytic Insights)
ทั้งหมดนี้ ย่อลงแล้วเป็น 2 คือ พระปัญญาวิมุต กับพระอุภโตภาควิมุต เท่านั้น พระสุกขวิปัสสกที่กล่าวถึงข้างต้น เป็น พระปัญญาวิมุต ประเภทหนึ่ง (ในจำนวนพระปัญญาวิมุต 5 ประเภท คือ พระสุกขวิปัสสก และท่านผู้ได้ฌาน 4 ขั้นใดขั้นหนึ่งมาก่อนได้บรรลุอรหัตตผล) พระเตวิชชะ กับพระฉฬภิญญะ เป็น อุภโตภาควิมุต ทั้งนั้น แต่ท่านแยกพระอุภโตภาควิมุตไว้เป็นข้อหนึ่งต่างหาก เพราะพระอุภโตภาควิมุตที่ไม่ได้โลกียวิชชาและโลกียอภิญญา ก็มี ส่วนพระปฏิสัมภิทัปปัตตะ ได้ความแตกฉานทั้งสี่ด้วยปัจจัยทั้งหลาย คือ การเล่าเรียน สดับ สอบค้น ประกอบความเพียรไว้เก่า และการบรรลุอรหัต
Vism.710.
หมวดธรรม: ทุกะ — หมวด 2 — Groups of Two (including related groups)
ที่มา: พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม — พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)